รีวิวหนัง Barbie บาร์บี้ 2023 เป็นภาพยนตร์ที่มีความคล้ายคลึงกับตุ๊กตาบาร์บี้ที่รู้จักกันดีทั่วโลก ตัวละครบาร์บี้เป็นตุ๊กตาที่เป็นที่นิยมมาตั้งแต่ยุค 1950 โดยบริษัท Mattel, Inc.

และได้กลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนที่ยังคงความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน ตัวละครบาร์บี้มีหลายตำแหน่งและเคยก้าวเข้าสู่โลกของภาพยนตร์และทีวีด้วยเรื่องราวที่หลากหลาย ซึ่งทำให้คนทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคยกับตัวละครนี้มาก

ภาพยนตร์ที่มีความบันเทิงที่ดี นักแสดงที่เก่งกาจ และผู้กำกับที่ชำนาญสามารถสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานให้กับผู้ชมได้ จากนั้น

ภาพยนตร์นี้ยังมีธีมเรื่องที่แข็งแกร่งและมีประเด็นสังคมที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งทำให้ผู้ชมได้รับความรู้และคิดถึงเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วย สามารถรับชมได้ที่ช่องทาง  ดูหนังออนไลน์4k 

บาร์บี้แลนด์ แดนพลาสติก

รีวิวหนัง Barbie เรื่องย่อ

Barbie เรื่องย่อ ตุ๊กตาพลาสติกสูง 11 นิ้ว เป็นของเล่นที่มาปฏิวัติวงการตุ๊กตาให้เด็กผู้หญิงทั่วโลก จากเดิมที่เด็กๆ จะเล่นแค่ตุ๊กตาเด็กทารก พร้อมกับบทบาทสมมติพ่อ แม่ ลูก แต่บาร์บี้เป็นตุ๊กตาผู้ใหญ่ที่สร้างความท้าทายและเปลี่ยนแปลงมุมมองของเด็กผู้หญิงทั่วโลกไปตลอดกาล

เพราะ “บาร์บี้” เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่สามารถเป็นอะไรก็ได้ที่พวกเธออยากเป็น ไม่ว่าจะเป็นทนาย หมอ นางแบบ ตลอดจนประธานาธิบดีหญิง บาร์บี้อยากแต่งตัวแบบไหนหรือใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ โดยมี “เคน” เพื่อนชายคนสนิทของบาร์บี้คอยให้กำลังใจและสนับสนุนอยู่เคียงข้าง

รีวิวหนัง Barbie บาร์บี้ 2023

แต่ขณะเดียวกันโลกของบาร์บี้ก็เป็นโลกที่ปกครองโดยผู้หญิง ทุกสิ่งรอบตัวดูสวยงามและเป็นดั่งฝัน เด็กผู้หญิงหลายคนจึงพบว่าเมื่อพวกเธอโตเป็นวัยรุ่น

กลับไม่ได้รู้สึกชื่นชอบบาร์บี้เหมือนเก่า อาจเพราะรูปร่างหน้าตาของบาร์บี้ที่ถอดแบบมาจากมาตรฐานความงามแบบ “พิมพ์นิยม” ในโลกแห่งความจริง

และเราทุกคนอาจไม่สามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้หญิงแบบนั้นได้ ทำให้ต่อมาผู้ผลิตมีการผลิตบาร์บี้หลายรุ่นที่มีสีผิวแตกต่างกันมากขึ้น

ชีวิตที่ตามหาความหมาย

Barbie Movie ซับไทย ที่มีผลงานกำกับของเกรต้า เกอร์วิก (Greata Gerwig) ซึ่งได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจากละครเวทีมิวสิคัลช่วงปี 1950

และตุ๊กตาบาร์บี้ที่ถูกผลิตครั้งแรกในปี 1959 โดยภาพยนตร์นี้มีกลิ่นอายของความเป็นมิวสิคัลผสมผสานกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและฉากที่มีสีสันสดใส

เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบาร์บี้แลนด์และให้ผู้ชมรับรู้ถึงความเป็นโลกสมมติเมื่อเห็นตัวละครใช้ชีวิตอยู่ในบาร์บี้แลนด์ดินแดนพลาสติก

รีวิวหนัง Barbie บาร์บี้ 2023

จุดเด่นของหนัง Barbie Movie คือการนำเสนอประเด็นทางสังคมอย่างหนักให้กลายเป็นเรื่องราวที่เข้าใจได้ง่าย และชวนคนดูตั้งคำถามกับบทบาทต่างๆ

ของตัวละครอย่างน่าสนใจ โดยจิกกัดสังคมทุนนิยมและเหน็บแนมปิตาธิปไตยได้อย่างตลกร้าย ผ่านการสร้างตัวละครผู้ชายคาแรกเตอร์งี่เง่าน่ารำคาญและไม่ฉลาดนัก ราวกับต้องการตอกกลับโลกฮอลลีวูดที่มักสร้างบทแม่มด ผีสาง และปีศาจให้กับตัวละครผู้หญิง

หากเป็นจริงว่ามีหนังนี้ คงเป็นหนังที่น่าสนใจและสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมที่ต้องการเห็นเรื่องราวที่สร้างความคิดถึงเรื่องราวของสังคมในสถานการณ์ต่างๆ

ของบาร์บี้แลนด์ดินแดนพลาสติก และอาจมีความเป็นมิวสิคัลและสีสันสดใสที่มากขึ้นเพื่อสร้างความสนุกสนานแก่ผู้ชมในการติดตามเรื่องราวของตัวละครบาร์บี้แลนด์กันค่ะ

เพลงประกอบภาพยนตร์

นอกจากโปรดักชันที่น่าจับตามองแล้ว ในส่วนของเพลงประกอบภาพยนตร์ Barbie ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เพราะมาร์ค รอนสัน (Mark Ronson)

เจ้าของรางวัล Oscar และแอนดรูว์ ไวแอตต์ มารับหน้าที่ในการโปรดิวซ์เพลง รวมศิลปินชื่อดังมากมายที่มาร่วมสร้างสรรค์เพลงประกอบภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น

Lizzo – Pink
Dua Lipa – Dance the Night
Ryan Gosling – I’m Just Ken
Nicki Minaj & Ice Spice – Barbie World (with Aqua)
Charli XCX – Speed Drive
KAROL G – WATATI (feat. Aldo Ranks)
Man I Am – Sam Smith
Dominic Fike – Hey Blondie
Tame Impala – Journey To The Real World
What Was I Made For? – Billie Eilish
PinkPantheress – Angel
The Kid LAROI – Forever & Again
Khalid – Silver Platter
GAYLE – butterflies
HAIM – Home
Ava Max – Choose Your Fighter

รีวิวหนัง Barbie บาร์บี้ 2023

Barbie (บาร์บี้) เข้าโรงวันไหน? หนังบาร์บี้ 2023 ได้คะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.8 ส่วนบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้คะแนนรีวิจากผู้ชม 90%

สำหรับ Barbie Movie หรือภาพยนตร์เรื่อง “บาร์บี้” ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 54 นาที มีกำหนดเข้าฉายในไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้

ในโลกของบาร์บี้แลนด์โลกสีชมพูสดใสของเธอนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เธอสามารถนอนหลับอยู่ในบ้านที่เปิดให้แสงส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ดื่มกาแฟที่ไม่ต้องมีกาแฟ

อาบน้ำจากฝักบัวที่ไม่ต้องมีน้ำ แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็กลับคิดและพูดเรื่อง “ความตาย” ขึ้นมา แถมยังมีอาการเท้าแบนขึ้นมาอีก ความผิดปกตินี้เอง ที่ทำให้บาร์บี้ต้องชิ่งออกจากบาร์บี้แลนด์สู่ดินแดนโลกจริง

ในยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเต็มขั้น ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งยังต้องเลี้ยงลูก ดูแลสามี ไม่พอยังต้องดูแลตัวเองให้สวยเพื่อผูกมัดใจสามีอีก

ความอัดอั้นตันใจนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดของเล่นที่เป็นตุ๊กตาผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วขึ้นมา โดยที่ทุกคนที่เป็นเจ้าของมันสามารถแต่งองค์ทรงเครื่องได้ตามใจ แถมก็เหมือนรุ่นต่อๆ มาก็จะเพิ่มให้มีสีผิวที่หลากหลาย และอื่นๆ อีกด้วย

รีวิวหนัง Barbie บาร์บี้ 2023

มันเป็นหนังแนวผจญภัยที่ใส่ความแฟนตาซีเข้าไป แล้วเขียนให้ตัวเอกได้เรียนรู้เข้าใจความจริง เหมือนจะเป็น Coming-of-age ในแบบผู้ใหญ่หน่อยๆ ด้วยนะ

สิ่งที่รู้สึกชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ ก็คือ มันสร้างโลกของบาร์บี้ให้มีตัวตนขึ้นมา ทั้ง Greta Gerwig/เกรตา เกอร์วิก (ผู้มีเครดิตผู้กำกับจากหนัง ‘Lady Bird’ และ ‘Little Women’) และ Noah Baumbach/โนอาห์ บามบาค (ผู้เขียนบทหนัง ‘Marriage Story’ และ ‘Frances Ha’)

ได้ช่วยสร้างโลกสมมติขึ้นมาให้เป็นโลกที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ และผู้ชายต่างไร้ตัวตน ทำให้โลกตุ๊กตานั้นมีสีสันที่ชมพูเป็นสีหลัก ของเหลวไม่มีจริงในโลกนั้น แม้แต่ทะเลก็ต้องไม่ต้องมีน้ำทะเล ล้อไปกับการเล่นตุ๊กตาของเด็กผู้หญิงที่พวกเธอสมมติได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริง

รีวิวหนัง Barbie บทสรุป

รีวิวหนังรักโรแมนติก   คอนฟลิกต์เริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีบางสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับบาร์บี้ตัวนึง คำแนะนำของผู้ล่วงรู้บอกให้บาร์บี้ออกเดินทางสู่โลกจริง

โดยที่มีเคนผู้หลงรักเธอหัวปักหัวปำแอบเดินทางไปด้วย และได้พบเจอกับโลกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โลกที่เป็นขั้วตรงข้าม โลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (แม้จะจางลงบ้างแล้วก็ตามทีเถอะ) และทำให้สองตุ๊กตาต่างเพศกันได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ในเส้นทางที่แตกต่างกัน

จากนั้น หนังก็จิกกัดและแซะปิตาธิปไตยอย่างสนุกมือ ในสไตล์ที่ทั้งรู้สึกชวนหัวและโจ่งแจ้ง บางส่วนที่อ้างอิงหนังดังในอดีต บ้างหยิบเอาป็อปคัลเจอร์มาเล่นมุก แน่นอนว่า

มันต้องเป็นประเด็นหนักแน่ๆ แต่หนังก็เล่าออกมาได้หลากหลายท่ามกลางความสดใสของสีสันความแฟนตาซีของโลกตุ๊กตา และก็ไม่เท่านั้น เพราะมันยังลามไปถึงเรื่องการเมือง ที่คล้ายมาได้ตรงเวลาพอดิบพอดีกับการเมืองบ้านเราเลยนะเนี่ย งานนี้ ชายแท้ มีร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้างล่ะ

และเหนือสิ่งใด หนังก็ไม่ได้มุ่งเน้นแต่เรื่องจิกกัดสังคมปิตาธิปไตยเท่านั้น แม้แต่ในโลกของบาร์บี้เอง ก็ยังจิกกัดเรื่องความสมบูรณ์แบบ

สนใจแต่เรื่อง Beauty Standard (ก่อนขยายขอบเขตให้หลากหลายขึ้นในปัจจุบัน) แถมบทหนังยังเสาะแสวงหามุมมองที่ไปไกลกว่านั้นอย่างการรับรู้คุณค่าของตัวเองให้กับผู้ชมด้วย

ไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหน ทุกคนน่าจะอยากเห็นสังคมที่ทุกเพศต่างได้รับความสำคัญที่เท่าเทียม คงไม่มีใครอยากได้สังคมที่ชายเป็นใหญ่หรือหญิงเป็นใหญ่เป็นแน่

ความรู้สึกหลังรับชม

อีกอย่างคือทางเลือกสุดท้ายของบาร์บี้ที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกจริง แม้เธอจะเป็นตุ๊กตา และเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการไปตรวจภายใน

ในขณะที่ก่อนหน้านี้เธอพูดกับผู้ชายว่าเธอไม่มีอวัยวะเพศ ซึ่งคล้ายจะเป็นการขยายความเป็นภาพแทนของบาร์บี้ จากการเป็นตัวแทนของผู้หญิงเท่านั้น

มาเป็นตัวแทนของคนที่เกิดมามีหัวใจที่ไม่ตรงกับรูปลักษณ์ภายนอก เหมือนกับบาร์บี้ที่ไม่ idetify ตัวเองเป็นแค่ตุ๊กตาอีกต่อไป ตอนจบที่ทิ้งไว้แบบปลายเปิดว่าบาร์บี้จะปรับตัวกับโลกใหม่นี้อย่างไร ก็ไม่ต่างกับอนาคตที่ยังไม่ชัดเจนของคนกลุ่มนี้เช่นกัน

สุดท้ายแล้วภาพยนตร์ ‘Barbie’ ก็เป็นภาพยนตร์ที่ยืนยันว่า ‘บาร์บี้’ ยังเป็นภาพสะท้อนของสังคมเสมอมา ไม่ใช่อะไรไกลตัว แต่เป็นคนธรรมดา ๆ ที่ไม่พอใจกับตัวเอง มีน้ำตา มีวันที่สงสัยว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร เรากำลังอยู่ในที่ ๆ ไม่มีพื้นที่สำหรับเราอีกต่อไปหรือเปล่า

เราพิเศษไม่พอหรือเปล่าเมื่อเทียบกับคนอื่นที่ก้าวหน้าไปไกลเหลือเกินในชีวิต และอาจจะเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่จะทำให้บาร์บี้กลับมาทวงพื้นที่ในใจของเด็กน้อยและสาว ๆ

ที่เติบโตมาพร้อมกับเธอคืนมา และขยายความหมายของบาร์บี้ให้ครอบคลุมมากขึ้นในโลกที่ไม่ได้ถูกแบ่งเป็นเพียงชายและหญิงแบบบาร์บี้และเคนอีกต่อไป สุดท้ายเราขอฝากบทความรีวิวหนัง The Age of Adaline อดาไลน์ หยุดเวลา รอปาฏิหาริย์รัก