รีวิว After We Fell ภาพยนตร์รักที่ยังคงความร้อนแรง

รีวิว After We Fell ภาพยนตร์รักที่ยังคงความร้อนแรง

แนะนำหนังรักโรแมนติก ชื่อว่า After We Fell Netflix ภาพยนตร์อีโรติกบอกเลยว่าภาคนี้จะให้เราได้มโนเป็นภาคสุดท้ายแล้ว แงง มั้งนะ 555 ซึ่งภาพยนตร์นี้ที่ได้ทำออกมาสำหรับผู้รับชมที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ นิยามของภาพยนตร์อีโรติกนั้นคือภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์ทางเพศออกมาอย่างเปิดเผย แต่ไม่ได้เหมือนกับภาพยนตร์ลามกหรือหนังโป๊ แต่อย่างไรเพราะมันมีความพยายามที่จะสอดแทรกความเป็นศิลปะเช้ามาให้สัมพันธ์ทางเพศนั้นดูมีความสวยงามมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคือนักแสดงไม่ได้มีการมีเพศสัมพันธ์กันจริง แต่อย่างใดเป็นการใช้เทคนิคและมุมกล้องให้ผู้รับชมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวละครมีอะไรกันจริงๆด้วยเหตุนี้ภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่แล้ว สามารถรับชมได้ที่ ดูหนังฟรี

ก็มักจะถูกจัดให้เป็นภาพยนตร์เกรด B ที่ทำออกมาเพื่อเซอร์วิสเหล่าชายหนุ่มที่อยากจะเห็นเรือนร่างของนักแสดงดาราชื่อดังเนื้อเรื่องของภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่แล้วจึงมักจะไม่ค่อยน่าสนใจหรือบางครั้งก็ออกทะเลไปไกลก็มี แต่ต้องยอมรับว่ามีผู้รับชมไม่น้อยที่เป็นผู้หญิงและชื่นชอบภาพยนตร์แนวอีโรติก แต่กลับไม่ค่อยมีภาพยนตร์แนวอีโรติกที่ทำออกมาสำหรับผู้รับชมที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะเท่าที่ควรวันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกับภาพยนตร์เรื่อง After We Fell ติดตามการรีวิว ที่ รีวิวหนังที่ไม่เหมือนใคร

และเป็นภาพยนตร์อีโรติกภาคต่อที่ทำออกมาเพื่อสนองความต้องการของผู้รับชมผู้หญิงโดยเฉพาะสามารถหารับชมได้บน Netflix แนวคิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าทำออกมาให้มีอากสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นไปด้วยความเร้าใจมีการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกสามารถตอบสนองผู้รับชมที่เป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามเราขอแนะนำให้ทุกคนไปรับชมภาพยนตร์ภาคแรกและภาค 2 อย่าง After และ After We Collided มาก่อนไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เราไม่รู้เรื่องได้เนื่องจากมันดัดแปลงมาจากนานิยายแนวอีโรติกที่มีถึง 5 ภาคด้วยกัน

รีวิว After We Fell ภาพยนตร์รักที่ยังคงความร้อนแรง เรื่องนี้เป็นภาคต่อที่ 3

ซึ่งAfter We Fell เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นที่มีชื่อว่าเทสซ่าเธอเป็นเด็กสาวต้องเผชิญกับความรักสุดดราม่าหลังจากที่คบหากับชายหนุ่มสุดฮอตในโรงเรียนอย่างฮาร์ดินใน 2 ภาคแรกเราจะทราบว่าพวกเขานั้นรู้จักกันและทำการพัฒนาความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งด้วยคบหากันและแยกทางกันไปในภาคที่ 2 นั้นเด็กสาวได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยที่ไม่มีแฟนหนุ่มสุดฮอต ติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนังรักฝรั่ง

 

 

แต่แล้วเขาก็ได้วนเวียนกลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับครอบครัวของเธอในอดีตมันทำให้เด็กสาวนั้นต้องพบเจอกับพ่อที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนติดเหล้าและต้องการจะกลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้งในภาคนี้เด็กสาวจะต้องทำการตัดสินใจถึงอนาคตของเธอหลังเรียนจบว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปวมไปถึงการเตรียมตัวหางานหลังจากเรียนจบเธอนั้นต้องการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังเรียนจบด้วยการเดินทางเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่

ที่เป็นโอกาสมากมายที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล แต่มันกลับแตกต่างจากแผนชีวิตของเด็กหนุ่มที่วางเอาไว้อย่างสิ้นเชิงในภาคนี้เราจึงต้องมาดูกันว่าเธอนั้นจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับชีวิตรักและอนาคตของเธออย่างไรเมื่อแผนการเติบโตระหว่างเธอและแฟนหนุ่มนั้นดันไม่ตรงกันการก้าวข้ามผ่านวัยรุ่นไปสู่วัยผู้ใหญ่ของเธอนั้นจะสำเร็จไปอย่างงดงามหรือไม่ต้องติดตามรับชมกันอในภาพยนตร์

รีวิว After We Fell ภาพยนตร์รักที่ยังคงความร้อนแรง มีเรื่องราวดราม่าอีกด้วย

After We Fell เป็นภาพยนตร์แนวอีโรติกที่ Netflix ได้ให้เงินทุนสร้างต่อหลังจากที่มีการออก 2 ภาคแรกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วต้องยอมรับเลยว่าแม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แนวอีโรติกที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้รับชมที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่มันกลับประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนถึงขั้นที่ติดอันดับยอดนิยมบน Netflix ในช่วงเวลานี้เลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกอีโรติกที่มีเป้าหมายในการสนองความต้องการผู้รับชมที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวชายฝันหรือความรักสุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล สามารถดูหนังได้ที่ ดูหนังรัก

 

 

แต่กลับทำให้เรารู้สึกชอบใจได้เป็นอย่างดีในส่วนของฉากน้ำเน่าก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมบรรยากาศของภาพยนตร์คือหนังรักวัยรุ่นที่ในฉากอิโรติกเข้ามาน่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้สามารถสอดแทรกปมหรือประเด็นที่จะช่วยให้เด็กวัยรุ่นที่รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถมีข้อคิดไปคิดต่อได้เกี่ยวกับชีวิตรักในช่วงวัยรุ่นไม่เช่นนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะมีความครบเครื่องมากกว่านี้ดังนั้นหากใครอยากจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้เราขอแนะนำให้ลองทิ้งเหตุผลหรือตรรกะบางอย่างไปก่อนเพราะมันมีความเป็นการ์ตูนและนวนิยายสูงมากเหมือนเป็นการนำเอาละครหลังข่าว

มาทำเป็นภาพยนตร์แม้ว่าจะมีความพยายามในการเล่าปมดราม่าของครอบครัวในอดีตหรือความขัดแย้งกันระหว่างคู่พระเอกนางเอก แต่โดยรวมแล้วแก่นเรื่องที่แท้จริงนั้นไม่ได้มีอะไรเลยแม้แต่น้อยมันจึงเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับการรับชมเพื่อความฟินโดยเฉพาะไม่ต้องไปคิดอะไรต่อให้มากมายหากคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนตร์แนวโรแมนติกและมีฉากอีโรติให้เราได้รู้สึกใจเต้นบ้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะสามารถตอบโจทย์คุณได้ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบภาพยนตร์ที่ตัวละครน่ารำคาญตรรกะประหลาดไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่เป็นแกนหลักโดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับคุณ

รีวิว After We Fell เรื่องราวของ tessa ที่เริ่มเปลี่ยนไป

ในส่วนของเรื่อง ราวครั้งสุดท้ายที่เราเห็น Tessa (Josephine Langford) และ Hardin (Hero Fiennes-Tiffin) พวกเขาได้เผชิญหน้ากับ Richard (และเมามาก) พ่อของ Tessa (และเมามาก) เป็นเวลานาน หลังจากที่ We Fell เข้ามาในช่วงเวลาที่แน่นอน ขณะที่ Tessa ช่วยพ่อของเธอทำความสะอาดตัวเอง และพวกเขาคุยกันว่าทำไมเธอถึงไม่ได้ยินข่าวจากเขาเลยเป็นเวลา 9 ปี ฮาร์ดินซึ่งเคยเป็นแฟนที่คอยปกป้องเธอ ข่มขู่ริชาร์ด แต่ทั้งสองก็ผูกพันธ์กันในภายหลังเมื่อพวกเขาไปที่บาร์และเริ่มจับมือกันเพื่อปกป้องเกียรติของเทสซา ริชาร์ดออกเดินทางไม่นานหลังจากนั้น แต่ก่อนหน้านั้นเขาสัญญาว่าจะไม่หายตัวไปในครั้งนี้ และทุกท่านสามารถรับชม การ์ตูนอนิเมะ

 

 

ในขณะเดียวกัน Tessa และ Hardin กำลังเผชิญกับปัญหาของตนเอง Tessa พร้อมที่จะย้ายไปซีแอตเทิลเพื่อทำงานในฝันของเธอ ในขณะที่ฮาร์ดินไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีความสุขเหลือเกินที่จะทิ้งเขาไว้ข้างหลัง เขาไม่ต้องการย้ายไปซีแอตเทิลเพราะไม่มีอะไรอื่นสำหรับเขาจริงๆ และนั่นทำให้เกิดความแตกแยกในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งสองยังคงทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ (เช่น เทสซ่าอาจจะแอบชอบเพื่อนร่วมงานเก่าของเธอในขณะที่เธอไม่ได้อยู่ร่วมกับฮาร์ดินเลยด้วยซ้ำ)

และบรรดาสาวงามทั้งโลกก็แก้ปัญหาไม่ได้ . การย้ายของ Tessa จบลงด้วยดีจริง ๆ สำหรับทั้งสองคน และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามหาทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีเมื่อฮาร์ดินตัดสินใจพาเธอไปลอนดอนกับเขาเพื่อจัดงานแต่งงานของแม่ สิ่งที่เริ่มต้นจากการเดินทางที่น่ารื่นรมย์ในไม่ช้าก็เผยให้เห็นว่าเต็มไปด้วยการเปิดเผยที่น่าผิดหวังที่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ … ตลอดไป

ซึ่ง After We Fell ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาคต่อของ After We Collided ที่ชวนให้หาว หยิบขึ้นมาตรงที่มันค้างไว้แล้วเดินตามไปอย่างช้าๆ และไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เลย ฉันคอยตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ ว่าเหลืออีกกี่นาที หลังจากที่ We Fell ได้ปรับปรุงจังหวะทางอารมณ์แบบเดียวกับที่เคยทำมาก่อน วนไปวนมาในแวดวงที่ทำให้ฮาร์ดินโกรธหรือหึง

 

 

และเทสซ่ามีปฏิกิริยาน้ำตานองหน้าเหมือนกัน จนกระทั่งทั้งคู่เลิกกันมีเพศสัมพันธ์ในสถานที่ไหนก็ได้ที่สะดวกที่สุด มันแทบจะไม่เป็นหนัง จากความพยายามครึ่งใจที่จะเขย่าเรื่องทางเพศไปจนถึงการใช้ The Fray ที่แปลกประหลาด “Never Say Never (Don’t Let Me Go)” เป็นเพลงปิด (มีโอกาส 0% ที่นักแสดงนำในเรื่องโรแมนติก หลังจากที่เรารู้แล้วว่า The Fray เป็นใคร) ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาก และไม่มีความร้อนจริงๆ เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่คุ้มที่จะดูแค่เนื้อหาเซ็กซี่แบบซอฟต์คอร์เท่านั้น ประหยัดเวลาและจัดคิว 50 Shades แทน คุณจะได้รับเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษทั้งหมดที่คุณปรารถนาและการตระหนักรู้ในตนเองเล็กน้อย ซึ่งมากกว่าภาพยนตร์ After ทุกเรื่องที่มีให้

รีวิว After We Fell ภาพยนตร์รักที่ยังคงความร้อนแรง พวกเขาจะกลับมารักอีกครั้งไหม

อย่างไรก็ตามเราก็มาถึงภาคที่สามกันแล้วสำหรับเรื่องราวความสัมพันธ์แบบรัก ๆ เลิก ๆ ของเทสซ่ากับฮาร์ดิน ในตอนจบของภาคที่แล้วเทสซ่าได้เจอกับพ่ออีกครั้ง เริ่มเรื่องภาคนี้เธอก็ชวนพ่อมาอยู่ด้วยกัน ฮาร์ดินรู้ดีว่าเขาต้องทำให้เทสซ่าเสียใจอีกแน่ จึงพยายามหว่านล้อมเธอให้คิดดูใหม่แต่เธอก็ยังยืนยันคำเดิม นี่เลยเป็นปัญหาแรกของทั้งคู่ ต่อมาเมื่อเทสซ่าได้งานที่ซีแอตเทิล เธอก็เริ่มมองอนาคตและชวนเขาไปด้วยกัน แต่ฮาร์ดินอยากให้เธอไปอยู่กับเขาที่ลอนดอนมากกว่า จึงทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอีก แถมปัญหาเกี่ยวกับความลับ คำสัญญา ได้ที่ ดูหนังใหม่ ภาพดี ๆ

 

 

และความเชื่อใจก็เริ่มมีผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาอีกครั้ง เทสซ่าตัดสินใจไปซีแอตเทิลโดยไม่บอกลาฮาร์ดิน จนเวลาผ่านไปเธอกลับเริ่มคิดถึงเขาจับใจ ในขณะที่ฮาร์ดินก็คิดได้และทุ่มเทให้กับการเรียนจนมีผลการเรียนดีขึ้นมาก เมื่อรู้ข่าวเธอก็เป็นฝ่ายโทรไปหาเขาก่อน ทั้งคู่ได้พูดคุยกันอีกครั้งและปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ความสัมพันธ์หวานชื่นเริ่มกลับมา จนเขาตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายไปอยู่กับเธอ แต่เรื่องดราม่ายังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะความลับที่แสนจะเจ็บปวดได้โหมกระหน่ำใส่เขาแบบไม่ทันตั้งตัว (เรียกว่าพีคมากเหมือนกัน) และมีเพียงเทสซ่าเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเขาในตอนนี้

และซึ่งภาคนี้จะดราม่าหนักกว่าสองภาคแรกเพราะมีปมเรื่องครอบครัวของทั้งคู่เข้ามาด้วย แต่มันก็ทำให้ตัวละครเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากความรักร้อนแรง การหลอกลวง ความไม่เข้าใจกันแบบที่ผ่านมา ทั้งคู่จะต้องเจอกับปัญหาอย่างอื่นที่หนักหนาพอกัน เชื่อว่าภาคต่อไปเราคงจะได้เห็นพัฒนาการตัวละครสู่การเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งน่าติดตามว่าจะมีเรื่องอะไรเข้ามาอีก ทว่าแม้จะมีดราม่าแต่ความฟินยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพัฒนาจากความใส ๆ ใจเต้นรัวเป็นร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก บวกกับเคมีที่ดีงามของพระนาง โดยเฉพาะความหล่อทะลุจอของ ฮีโร่ ไฟนส์ ทิฟฟิน กับสำเนียงบริติชและรอยสักอันกร้าวใจของเขาทำเราใจเต้นแรงไปพร้อม ๆ กับนางเอก เชื่อว่าหลายคนคงโดนพระเอกตกในทุกภาคที่ดูเหมือนกันแน่นอน

ความรู้สึกหลังดูจบ ที่มีให้สำหรับเรื่องนี้ After We Fell

ซึ่งฉันรู้สึกว่าโครงสร้างที่น่ากลัวยังคงดำเนินต่อไปด้วยวัฏจักรที่คุ้นเคยของความหึงหวงงี่เง่าและการมีเพศสัมพันธ์ที่น่าเบื่อ แทนที่จะพยายามสร้างความสนใจใหม่เป็นอย่างน้อย เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้ว่า After We Fell จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากความยุ่งเหยิงครั้งก่อน After We Collided and After อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้น่าเบื่อมาก สามารถอ่านรีวิวของเราเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์ใหม่ ๆ

 

 

มีแฟน ๆ ของละครโรแมนติกที่น่าสมเพชนี้ได้อย่างไร? ภาพยนตร์สองเรื่องแรกเป็นการโต้เถียงและเรื่องเพศ After We Fell ดูเหมือนจะลดจำนวนการโต้แย้งลง แต่เน้นที่… แทบไม่มีอะไรเลย มันช้ามากและดูเหมือนว่าจะต้องชี้หรือกำหนดเป้าหมายอย่างจริงจัง บทสนทนาก็แย่มากเช่นกัน

และAfter We Fell ยังพูดถึงความหึงหวงที่ไม่ยุติธรรมอย่างมากระหว่าง Tessa และ Hardin คู่รักนำ และการพัฒนาตัวละครก็เป็นฝันร้ายของความรักที่แท้จริง สิ่งนี้ยังมีส่วนช่วยในการทำให้เนื้อเรื่องทั้งหมดยากต่อการจดจ่อ แต่ตอนนี้ หลังจากภาคที่ 3 ของคู่รักที่ไร้การเคลื่อนไหวและสิ้นหวัง ใครในโลกนี้จริงๆ ที่อยากจะคาดหวังบทที่โง่เขลาในตอนต่อไป?

ซึ่งสิ่งเดียวที่ฉันชอบใน After we Fell คือเคมีระหว่าง Tessa และ Hardin กับฉากความรักและความโรแมนติก สิ่งอื่นๆ ทั้งหมด เรื่องราว เพลงประกอบ การกำกับและแม้แต่การแสดง ไม่ว่า Tessa และ Hardin เมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือเป็นตัวละครอื่นๆ ล้วนเป็นเรื่องปกติมาก ไม่มีอะไรพิเศษในตัวพวกเขาเลย แม้แต่เนื้อเรื่องก็ไม่มีศูนย์กลาง เพราะหนังทุกเรื่องเน้นที่สถานะของความสัมพันธ์ระหว่างฮาร์ดินและเทสซ่า นั่นคือเหตุผลที่การเล่าเรื่องในภาพยนตร์เรื่องนี้หายไป ดังนั้นเมื่อถึงสกอร์ผมจึงไม่สามารถให้ After we Fell

สุดท้ายฉันรักหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดีกว่าภาพยนตร์เรื่องที่สองอย่างแน่นอน การแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ดีกว่าสองเรื่องแรกมาก และฉันอยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ตลกกว่ามาก และมีความตลกขบขันในบางฉากของแม่มดที่ฉันรัก ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดีมากคือคุณเห็นว่าตัวละครรู้สึกอย่างไรและอารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขาดีแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮาร์ดิน คุณสามารถเห็นได้จริงๆ ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนหรือรู้สึกอย่างไรในภาพยนตร์เรื่องที่สองที่รู้สึกสับสนกับความรู้สึกของเขามากขึ้น ฉันเดาว่าคุณสามารถพูดได้ ฉันต้องบอกว่าฉันรู้สึกราวกับว่าช่วงเริ่มต้นนั้นค่อนข้างเร่งรีบในบางส่วน แต่ก็ยังมีฉากต่างๆ มากมายที่ฉันจำได้จากหนังสือ และโดยรวมแล้วชอบหนังเรื่องนี้มาก รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว!!! ถ้าหากทุกท่านชื่นชอบการรีวิวของเรา สามารถติดตามการรีวิวของเรา แบบไม่ขาดช่วงได้ที่ รีวิวหนัง