รีวิว My Best Friend’s Wedding

ในฐานะที่ Netflix เพิ่มหนังรอมคอมของผู้หญิงบานฉ่ำ Julia Roberts เยอะมากในเดือนที่ผ่านมา เราอยากชวนคุณย้อนกลับไปซึ่งกับความรักแบบเพื่อนรักเพื่อนใน My Best Friend’s Wedding แล้วมาดูกันว่าพอโตขึ้นแล้ว คุณยังอินกับเธอเหมือนเดิมหรือไม่ “เปิดดู My Best Friend’s Wedding ในวัย 31 ยังเกลียด ‘คิมมี่’ ตั้งแต่ฉากแรกเหมือนเดิม สามารถรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

และมองเห็นตัวเองในอนาคตเต้นรำกับจอร์จด้วยความยินดีในฉากสุดท้ายเหมือนเดิม หรือ จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะโตขึ้นแค่ไหน คนเราไม่เคยฉลาดขึ้นในเรื่องของความรักเลยนะ?”

My Best Friend’s Wedding คือหนึ่งในคลาสสิก Romantic-Comedy แห่งยุค 90s ว่าด้วยเรื่องของการรักเพื่อนสนิท ผ่านเรื่องราวของจูเลี่ยน (จูเลีย โรเบิร์ท) นักเขียนวิจารณ์อาหารสาวสวย กับไมเคิล (เดอร์มอท มัลโรนี่) นักข่าวกีฬาผู้เป็นอดีตคนรัก

และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ทั้งสองเคยพูดกันว่าหากอายุครบ 28 ปีแล้วต่างคนยังโสดทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่เมื่อจูเลี่ยนกำลังจะอายุครบ 28 จริงๆ ไมเคิลกลับบอกข่าวเธอว่าเขากำลังจะแต่งงานกับ คิมมี่ (คาเมรอน ดิแอซ) และต้องการให้จูเลี่ยนเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ แผนการทวงคืนผู้ชายที่รักจึงเริ่มต้นขึ้น

หนังออกฉายครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 1997 ถือเป็นหนังรอม-คอมไอคอนิกของจูเลีย โรเบิร์ท อีกเรื่องหนึ่งหลังได้ฉายยาผู้หญิงบานฉ่ำจาก Pretty Woman เมื่อปี 1990 และ อีกสองปีถัดไปก็ทำเอาๆ หนุ่มๆ ที่ชอบเด็ดดอกฟ้ามีความหวังขึ้นอีกรอบจากบทดาราสาวสวยใน Nothing Hill (1999)

แต่เราจะไม่พูดถึงเรื่องการแสดงของจูเลีย ไม่ย้อนมองประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ผ่านรอม-คอมอะไรทั้งนั้นในบทความนี้ เพราะนักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายท่านน่าจะทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่า แต่สิ่งที่ทำให้อยากหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้งกลับเป็นเหตุผลที่ธรรมดาที่สุดที่ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่สิบปี My Best Friend’s Wedding ก็ยังเป็นหนังที่บอกกับเราว่า ‘คนบางคนเข้ามาในชีวิตเราแค่เพื่อให้เรารักแต่ยินดีกับความสุขของเขา เท่านั้นจริงๆ นะ’ ได้ดีที่สุด

ปี 1997 ที่หนังออกฉาย ผู้เขียนอายุ 10 ปีเท่านั้น และสารภาพตามความเป็นจริงว่าจำไม่ได้เลยว่าได้ไปดูในโรง ดูผ่าน HBO หรือไปเช่าที่ร้าน Blockbuster ดูในตอนที่โตขึ้นแล้วกันแน่ แต่ไม่ว่าจะได้ดูด้วยวิธีการไหน ฉากหนึ่งที่เราจำได้แม่นคือฉากบนเรือที่ไมเคิลบอกจูเลี่ยนว่า “If you love someone, you say it, you say it right then, out loud. Otherwise, the moment… passes you by.” ประโยคเด็ดที่ทำให้เด็กในวัยเลขหนึ่งนำหน้ากล้าบอกรัก

 

รีวิว My Best Friend’s Wedding

 

กล้าแสดงออกความรู้สึก ต่อให้สุดท้ายจะอกหักกลับมานอนร้องไห้ฟูมฟายนัดต่อนัดก็ตาม แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาเพราะฉากสุดท้ายที่จูเลี่ยนเต้นรำกับจอร์จ (รูเพิร์ต เอเวอเร็ตต์) ก็ได้ให้กำลังใจเด็กหนุ่มสาวเหล่านั้นว่าพวกเธอยังมีเพื่อนคอยซับน้ำตาเสมอ จนทำให้ไม่ว่าครั้งไหนที่ทั้งตัวเองหรือเพื่อนสนิทตกอยู่ในสภานการณ์แอบรักเพื่อนสนิทก็มักจะมีคนหยิบเอาเรื่องที่ไม่สมหวังของจูเลี่ยนและไมเคิลมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจทุกครั้ง

วันเวลาผ่านไปถึงปี 2018 ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกบรรจุไว้ในหมวดรอม-คอมของ Netflix สิ่งที่แปลกคือการกลับไปดูหนังเรื่องนี้อีกรอบเพราะคิดถึงฉากคลาสสิกบนเรือ กลับไม่ทำให้วัย 2 0 ปีให้หลังรู้สึกอยากที่จะบอกรักหรือสนับสนุนให้จูเลี่ยนแย่งไมเคิลกลับมาให้ได้เหมือนเดิม

แต่กลับรู้สึกว่าเข้าใจความรักที่ยินดีเมื่อคนที่เรารักมีความสุขได้อย่างสมบูรณ์ และน่าแปลกที่มีอีกหลายประโยคจากจอร์จที่อธิบายความสัมพันธ์ได้อย่างถ่องแท้เพียงแต่ในวัยตาบอดเราไม่เคยฟังมันเอง “It’s amazing the clarity that comes with psychotic jealousy”

ในฉากที่จอร์จมาหาจูเลี่ยนและถามเธออีกครั้งให้แน่ใจว่าที่เธอทำไปทั้งหมดเพื่อต้องการเอาชนะใช่หรือไม่ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอมีโอกาสที่จะครอบครองไมเคิลมาตลอดแต่ทำไมเลือกที่จะมารู้ตัวเองตอนนี้ตอนที่ไมเคิลกำลังจะแต่งงาน

นั่นก็เพราะจูเลี่ยนเพิ่งจะรู้ความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองผ่านการหึงหวงและกลัวที่จะเสียเขาไปตลอดกาล ซึ่งเราคิดว่าในหลายความสัมพันธ์บางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าที่เป็นเอามาขนาดนี้แค่เพราะกลัวเสียเขาไป หรือ กลัวแพ้ รึเปล่า คำพูดของจอร์จจึงเหมือนเป็นการดึงสติ ให้จูเลี่ยนคิดดีๆ ก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันคือความรักแน่ๆ นะ (ต่อให้จะดึงสติไม่สำเร็จก็ตาม) รีวิวหนังรัก 

 

 

เมื่อจูเลี่ยนถามจอร์จว่าหลังจากที่เธอบอกรักไมเคิลแล้ว ‘เขาจะทำอย่างไร’ จอร์จตอบว่า ‘เขาก็จะเลือกคิมมี่ และทั้งสองก็จะแต่งงานกัน เธอมาที่นี่เพื่อบอกรักและยินดีกับเค้าทั้งสองคน’ เป็น Quote และฉากที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเลยเมื่อเทียบกับว่า

คนจำฉากบนเรือและฉากในห้องน้ำที่คิมมี่ด่าจูลส์ ได้มากกว่า แต่คำพูดของจอร์จไม่มีอะไรผิด สิ่งที่เธอมาเพื่อจะทำคือการบอกรักเขาและเดินออกมา เพราะไมเคิลเลือกคิมไปแล้ว และไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขาได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจูเลี่ยนจะบอกรักเขาเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้

เราคิดว่าในเรื่องของความสัมพันธ์ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คุณก็ตกอยู่ในสถานะของจูเลี่ยนได้ทั้งนั้น หนังอีกเรื่องหนึ่งที่ใกล้เคียงแต่สลับบทบาทคือ Made of Honor (2008, Patrick Dempsey

และ Michelle Monaghan) แตกต่างกันตรงที่เรื่องหลังบทถูกวางไว้ให้ Colin หรือ Mr. Right ของ แฮนนาห์เป็นคนที่ไม่ใช่เอาเสียเลย เรื่องถึงกลับจบอีกแบบ แต่แล้วถ้าคอลลินเป็นคนที่ใช่ไปหมดทุกอย่างเหมือนกับคิมมี่หล่ะ? เชื่อว่าทอมก็คงต้องทำสิ่งเดียวกันกับจูเลี่ยนในเรื่องเช่นกัน

น่าเสียดายที่ในระหว่างที่จูลส์กำลังพยายามพูดประโยคที่เป็นความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์อีกอย่างว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่แทนกันได้ เธอกำลังบอกกับคิมมี่เพื่อให้คิมมี่ตัดใจและเดินออกไปจากไมเคิลตามแผนที่เธอวางไว้ ซึ่งในความจริงข้อนี้มันเป็นสิ่งที่เธอควรพูดให้ตัวเองฟังมากกว่าเพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก มันก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไมเคิลจะเลือกใคร

รีวิว My Best Friend’s Wedding

จูเลี่ยนเป็นสาวฮอต เป็นผู้หญิงที่ใครที่ทำให้คนรอบข้างสนุกสนานและตกหลุมรักได้ง่าย น่าจะเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะ เพราะเธอก็ชอบคาราโอเกะเช่นเดียวกับไมเคิล จูเลี่ยนทำงานเก่งและเธอก็ประสบความสำเร็จ เป็นผู้หญิงที่สมควรแล้วที่คิมมี่พูดว่าอิจฉา รีวิวหนังรัก 

 

 

และยังไงก็ไม่มีวันเป็นเธอได้ แต่ในทางกลับกันคิมมี่ก็เป็นสาวหวาน สดใส จิตใจดี สวย บ้านรวย และที่สำคัญเธอก็รักไมเคิลมากพอที่จะยอมเปลี่ยนทางเดินชีวิตของตัวเอง (ซึ่งจริงมั้ยล่ะว่าจูเลี่ยนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่) ไม่มีใครดีกว่าใครและไม่มีใครแทนใครได้จริงๆ ความจริงที่น่าเศร้ามันแค่อยู่ที่ว่าไมเคิลจะเลือกใครเท่านั้นเอง “Michael is chasing Kimmy. You’re chasing Michael. Who’s chasing you? Nobody. Get it?”

เมื่อคิมมี่วิ่งหนีออกจากงานหลังจากที่เห็นจูเลี่ยนจูบกับไมเคิล เป็นใครก็ดูออกว่าเขาเลือกใคร ยกเว้นก็แต่จูเลี่ยนที่ดันไปเล่าให้จอร์จฟังว่าทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีกระทั่งเธอถูกคิมมี่ ‘ขัดจังหวะ’ จนจอร์จต้องปลุกให้ตื่นอีกรอบด้วยประโยคที่ว่า ‘ไมเคิลวิ่งตามคิมมี่ เธอวิ่งตามไมเคิล แล้วใครวิ่งตามเธอ ไม่มีไง เข้าใจรึยังล่ะ’

สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยเรียนรู้คือเราอาจจะปล่อยให้ตัวเองตกหลุมรักแบบไม่ถูกที่ถูกเวลาซ้ำๆ อยู่นั่นแหละ บางคนอาจจะผ่านเข้ามาในช่วงเวลาสั้นๆ คุณอาจจะตกหลุมรักเพื่อนสนิท หรือเมื่อความไม่พอดีเกิดขึ้น ความรักครั้งนั้นอาจะกลายเป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ยังยืนยาวนาน เราไม่รู้หรอก จนกว่าจะปล่อยให้ตัวเองเล่นภาพยนตร์เรื่องนั้นจนจบลง

สิ่งที่ My Best Friend’s Wedding บอกเราในวัยนี้คือ ในชีวิตของเรามันจะมีคนคนนึงที่เกิดมาเพื่อให้เรารักเฉยๆ คนที่อยู่ในความคิดของเราเสมอ เขาเป็นคนที่เราครอบครองไม่ได้และความจริงข้อนั้นจะทำให้เราเป็นบ้าจนยอมทำสิ่งที่เสียหน้า เสียฟอร์ม ทำอะไรที่คนอื่นไม่มีทางได้เห็นจนกระทั่งการกระทำ

และความไม่พอใจในสมการจะทำให้เราค่อยๆ ยอมรับความจริงและก้าวออกมายินดีกับความสุขของเขาแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะคนอื่นก็ตาม เพราะตอนนี้ความสุขของเขากับมิตรภาพระหว่างคุณมันกลายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการได้ครอบครองเขาไปแล้ว

ฟังแล้วมันช่างน่าโมโหในความไม่ยุติธรรม แต่หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เชื่อเถอะว่าคุณจะเกลียดคิมมี่และหมั่นไส้เธอมากพอๆ กับที่สุดท้ายคุณจะรักเธอเมื่อเธอทำให้คนที่คุณรักมีความสุข ที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดคืออย่าลืมหาจอร์จเป็นของตัวเองด้วย

ความรู้สึกหลังดู

นี่คือภาพยนตร์ป๊อปคอร์น หนังลูกไก่ ที่ทำให้หลายคนเป็นที่ต้องการในแผนกจริยธรรม ปกติแล้วฉันเป็นแฟนตัวยงของจูเลีย โรเบิร์ตส์ แต่ในเรื่องราวที่น่าเศร้านี้ เธอไม่ได้พบเจอตัวตนที่เปราะบางและเป็นที่รักตามแบบฉบับของเธอ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย 

 

 

พล็อตเรื่องไม่น่าจะเป็นไปได้เกี่ยวกับนักวิจารณ์อาหาร จูเลียนน์ ผู้เรียนรู้ไม่กี่วันก่อนงานแต่งงานว่าไมเคิล เพื่อนสนิทที่สุดของเธอ (และอดีตคู่รัก) กำลังจะแต่งงานกับสาวผมบลอนด์ผู้มั่งคั่งที่น่ารักชื่อคิมเบอร์ลี อันที่จริง Michael เชิญ Jules เป็น…ไม่ใช่ ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดของเขา

แต่เป็นสาวใช้ผู้มีเกียรติ จูลส์บินจากบ้านของเธอในนิวยอร์กไปชิคาโกเพื่อจัดงานแต่งงาน ไม่ใช่เพื่ออวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความสุข แต่แทนที่จะขโมยไมเคิลไปจากคิมมี่ และทำให้แน่ใจว่างานแต่งงานจะไม่มีวันจบสิ้น เธอมีเวลาสี่วันในการโน้มน้าวเจ้าบ่าวที่ไม่สงสัยให้รู้ว่าตัวเธอเอง ไม่ใช่คิมมี่ เป็นเจ้าสาวสำหรับเขา

ปัญหาแรกของฉันกับเรื่องราวที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้คือ อดีตคู่รักมักไม่ค่อยมีเพื่อนที่ดีที่สุดด้วยเหตุผลทั้งหมดที่เปิดเผยในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นคือความรู้สึกหลงใหลที่เอ้อระเหยและปัญหาของความหึงหวง นอกจากนี้ เพื่อนสนิทคนที่สองของจูลส์ (อย่างที่เคยเป็น) ยังเป็นผู้ชาย…จอร์จ บรรณาธิการของเธอ ซึ่งบังเอิญเป็นเกย์ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลยเหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่หรือเปล่า?

อันที่จริง จอร์จกลายเป็นตัวละครในภาพยนตร์ที่มีความซื่อตรงที่สุด ซึ่งไม่ได้พูดมากในเรื่องขนฟูที่ผิดศีลธรรมเรื่องนี้ เขาเป็นเพื่อนแท้ของจูเลียน บินจากแดนไกลเพื่ออยู่กับเธอและให้ความสบายใจ เขาให้คำแนะนำที่ดีแก่จูลส์จริงๆ คือบอกผู้ชายที่เธอรักเขา และต่อมาเมื่อเห็นได้ชัดว่ามันไม่เวิร์ค ให้ปล่อยไมเคิลไปอย่างสง่างาม อย่างไรก็ตาม จอร์จได้รับเลือกให้เป็นเพื่อนรักร่วมเพศโปรเฟสเซอร์

ซึ่งฮอลลีวูดทำจนตาย จูลส์แสร้งทำเป็นหมั้นกับจอร์จเพื่อกระตุ้นให้ไมเคิลเกิดความหึงหวง (เพียงหนึ่งในการโกหกนับไม่ถ้วนของเธอ) แต่การประดิษฐ์นี้ดูเหมือนจะไม่ไปไหน พวกเขาไม่เคยยกเลิกอุบายอย่างเป็นทางการจริงๆ อีกอย่าง ฉันชอบการร้องเพลงของ Dionne Warwick แต่พบว่าทั้งซิงกาลองที่งานเลี้ยงอาหารค่ำซ้อมนั้นไร้สาระเกินไป

Jules เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการแสดงออกเก่า…มีเพื่อนเช่นเธอใครต้องการศัตรู? เธอไม่ใช่เพื่อนของไมเคิลเลย (แต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดด้วยซ้ำ) โดยไม่สนใจความสุขของเขาเลย จนกว่าจะถึงจุดจบ เธอไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าอดีตคู่รักขี้หึงที่โกหก บงการ และคบคิด จูลส์ใช้กลอุบายทุกอย่างในหนังสือเพื่อแยกไมเคิลและคู่หมั้นของเขาออกจากกัน รวมถึงการพยายามไล่ไมเคิลออกจากงาน

โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของคิมมี่และพ่อของเธอ จริงอยู่ เธอกลับใจจากการกระทำอันน่าสยดสยองนี้ แต่เป็นการยากที่จะเชียร์ “นางเอก” ที่ไร้ยางอายคนนี้ เธอไม่ได้รับไมเคิลในท้ายที่สุด และไม่สมควรได้รับเขา ผู้หนึ่งได้รับความรู้สึกว่านี่ไม่ใช่รักแท้ แต่เป็นกรณีของความต้องการในสิ่งที่เธอไม่สามารถมีได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง สการ์เล็ตต์ โอฮาร่าก็เข้ามาในหัวขณะที่ฉันกำลังดูเรื่องนี้อยู่

ไมเคิลหล่อจริงๆ แต่คำอธิบายที่นึกถึงคือ “กระตุก” บอกตรงๆ คิมมี่มีได้! ฉันไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่หวนคิดถึงความทรงจำเก่าๆ กับแฟนเก่าที่อยู่ตรงหน้าฉันสี่วันก่อนงานแต่งงานของเรา เขาไม่รู้ที่นี่เกินไปที่จะรับรู้หรือไม่ว่าคิมมี่ขี้หึงและขี้หึงรู้สึกอย่างไร? ฉันเกือบจะรอให้เขาพูดถึงเรื่องทางเพศกับจูลส์และคาดหวังให้ Kimmy ฟังอย่างสุภาพ! ไมเคิลเป็นหนึ่งในเจ้าบ่าวที่อ่อนไหวที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนหน้าจอขนาดใหญ่

 

รีวิว My Best Friend’s Wedding

 

นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำของจูลส์ เต้นค่อนข้างโรแมนติกกับเธอในขณะที่พวกเขาจำเพลงเก่าของพวกเขาได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องตลกที่อ้างถึงเธอเกี่ยวกับการเคยเห็นเธอเปลือยเปล่าในอดีต ไม่ใช่ความคิดของฉันเกี่ยวกับมิตรภาพที่สงบสุขที่ดีสำหรับผู้ชายที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น

โดยส่วนตัวแล้ว ฉันเชียร์ให้เจ้าสาวผู้เป็นที่รัก รับบทโดย คาเมรอน ดิแอซ อย่างสมบูรณ์แบบ ยกเว้นว่ามันยากนิดหน่อยที่จะซื้อความอดทนแบบเฉยเมยของเธอที่มีต่อมิตรภาพที่ไม่ค่อยปกติของคู่หมั้นของเธอกับแฟนเก่าของเขา หรือความโง่เขลามหาศาลของเธอที่มองไม่เห็นแรงจูงใจของ Jules ตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่อย่างนั้น เธอก็เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจในผลงานชิ้นนี้อย่างแน่นอน เมื่อจูลส์ตั้งใจจะทำให้คู่แข่งของเธอเสียเกียรติโดยยืนกรานให้ Kimmy ร้องเพลงที่บาร์คาราโอเกะ

แม้จะประท้วงอย่างรุนแรงก็ตาม แน่นอนว่า Kimmy ที่น่าสงสารถูกทำให้ดูเหมือนผู้หญิงที่ต้องการการปลดปล่อยเมื่อเธอประกาศว่าเธอลาออกจากวิทยาลัยเพื่อผลประโยชน์ของสามีในอนาคตและอาชีพการงานของเขา โอ้ ที่รัก เปล่าเลย มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าใครจะแต่งงานเพื่อครุ่นคิดถึงการเสียสละส่วนตัวใดๆ ก็ตาม!

ฉันพบว่าฉากห้องน้ำหญิงทั้งหมดใกล้ถึงจุดสิ้นสุดนั้นไร้รสและไร้สาระเมื่อผู้หญิงทุกคนเชียร์การต่อสู้ด้วยวาจาที่อาจเกิดขึ้นระหว่าง Jules และ Kimmy แน่นอนว่าผู้เขียนบทน่าจะทำได้ดีกว่านี้

นอกเสียจากว่าเรื่องตลกประติมากรรมน้ำแข็งที่น่าสมเพชคืออะไรนอกจากเป็นเรื่องหยาบ? ปกติแล้วฉันชอบแนวโรแมนติกคอมมาดี้ แต่คุณภาพดูเหมือนจะแย่ลงอย่างน่าเศร้าในทุกวันนี้ นี่ไม่ใช่หนังที่แย่ที่สุด ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก