รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ

วันนี้ผมจะมารีวิว หนังรักเรื่องที่จะทำให้คุณรู้สึกหวานซึ้ง และประทับใจไปกับบทของหนังอย่างแน่นอน หนังเรื่อง จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ นับว่าเป็นภาพยนตร์รีเมคชั้นยอดของไทยในปี 2003 ที่ชื่อว่า The Classic และซึ่งนำแสดงโดย Son Ye-Jin เราจะรู้สึกรักภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เรายังชอบบทภาพยนตร์รีเมคของไทยเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เรื่องราวมีความสมูทมาก เมื่อเทียบขึ้นกับ เวอร์ชั่นที่ผ่านๆมา โดยมีคุณ ฐิติภูมิ เตชะไพกุล ได้แสดงนำแสดงด้วยกองทัพนักแสดงคุณภาพ สามารถรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

ย้อนไปสัก 20 ปีก่อนหนังเกาหลียังนับเป็นหนังนอกสายตาของแฟน ๆ ชาวไทย ต่างจากช่วงหลายปีมานี้ที่หนังเกาหลีกลายเป็นหนังมาตรฐานสูงทั้งความบันเทิงและรางวัลจนตอนนี้เรากำลังมีหนังเกาหลีเข้าชิงออสการ์แล้วจากเรื่อง Parasite ถ้าถามว่าจุดเปลี่ยนสำหรับหนังเกาหลีในบ้านเราอยู่ตรงไหนถ้าเอาที่รู้สึกคือหนังเรื่อง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ของผู้กำกับ ควักแจยอง ในปี 2001

 

 

นำทัพมาก่อนจนเกิดกระแสหนังเกาหลีโรแมนติกคอมเมดี้กับชื่อไทยอย่างตระกูลยัยตัวร้ายตามมาอีกโครมใหญ่ แต่ถ้าถามว่าหนังเกาหลีกลายเป็นตัวแทนความโรแมนติกเอาตอนไหนก็ต้องบอกว่าตั้งแต่ตอนที่หนัง The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ในปี 2003 ผลงานเรื่องถัดมาของควักแจยองเข้าฉายในบ้านเรานั่นล่ะ ที่ตอกย้ำว่าความสำเร็จจากตอนยัยตัวร้ายฯ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด และน่าจะเป็นหนึ่งในหนังที่ติดรายชื่อหนังรักสุดโปรดของใครหลายคนด้วยเช่นกัน

ท่ามกลางกระแสความโด่งดังของภาพยนตร์ Parasite ที่คว้ารางวัลใหญ่จากเวทีประกาศผลรางวัลออสการ์  มีภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงอยู่เงียบ ๆ บางคนก็ชมว่าดี บางคนก็บอกว่าเฉย ๆ สื่อบางเจ้าให้คะแนนถึง 8.8/10 แต่เพจรีวิวหนังบางเพจให้แค่ 6/10
ภาพยนตร์เรื่องที่พูดถึงนี้ก็คือ Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาหลีอยู่ด้วย

 

 

“Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” เป็นภาพยนตร์แนวแนวโรแมนติก รีวิวหนังรัก เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ ธัชพงศ์ ศุภศรี ดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากภาพยนตร์เกาหลีใต้เรื่อง “The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต” ที่ผู้กำกับธัชพงศ์ชอบและเลือกนำบทประพันธ์มาถ่ายทอดแบบไทย ๆ เมื่อเขาได้รับโอกาสจากโปรดิวเซอร์ (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล) ให้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรก

ผู้กำกับเล่าว่า หนังเรื่องนี้มีความยากตรงที่เป็นเรื่องราวย้อนยุคไปในสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2510 ซึ่งทีมงานก็ต้องทำให้ใกล้เคียงยุคนั้น ดังนั้นบรรยากาศและองค์ประกอบต่าง ๆ ในเรื่อง ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม จึงต้องศึกษาเพิ่มเติมมากพอสมควร ด้านตัวนักแสดงหลัก 5 คนนี้มาจากการแคสติ้งนักแสดง ซึ่งทีมงานทำงานกันหนักมากในการแคสติ้ง จนคัดเลือกออกมาเป็น 5 คนนี้ที่มีเสน่ห์และมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง และเหมาะสมกับบทมาก

 

 

สองนักแสดงนำ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ และ มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร บอกว่า ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การนำบทภาพยนตร์เกาหลีมาดัดแปลงให้เข้ากับสภาพสังคมไทยซึ่งแตกต่างกับเกาหลีมาก โดยผู้กำกับเลือกให้เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภาคใต้เป็นหลัก คนดูจึงจะได้เห็นความสวยงามของสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตในภาคใต้ไปด้วย

 

รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ-6

 

รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคนสองยุคสมัย เริ่มจาก “โบต้า” (รับบทโดยรัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) สาวมหาวิทยาลัยวัยใสที่แอบหลงรัก “นน” (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) ชายหนุ่มหน้าตาดีในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอไม่อาจบอกความในใจครั้งนี้กับเขาได้ เพราะเพื่อนสนิทของเธอก็ชอบผู้ชายคนนี้เช่นกัน รีวิวหนังรัก จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ค้นพบกล่องลับของคุณแม่ที่บรรจุจดหมายรักของแม่เธอในสมัยยังสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นไม่มีวันลืมเลือนระหว่างหญิงสาว “ดาหลา” (รับบทโดยรัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) และชายหนุ่มบ้านนอกชื่อ “ขจร” (รับบทโดยฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ)

โบต้าเริ่มอ่านทุกตัวอักษรในจดหมายอย่างตั้งใจ และวันนั้นเองเธอจึงได้รับรู้เรื่องราวความรักครั้งแรกของแม่กับชายหนุ่มในความทรงจำ ทุกความรู้สึกถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจดหมาย ความรักที่ต้องแอบซ่อนไว้ในอดีตของแม่เธอ ไม่ต่างจากเธอในปัจจุบันที่แอบชอบผู้ชายคนหนึ่งแถมยังเป็นคนเดียวกับที่เพื่อนสนิทชอบ

โบต้าจะตัดสินใจอย่างไรกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ความรักของเธอจะซ้ำรอยกับแม่เธอหรือไม่ …นั่นคือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนคนดูลุ้นไปด้วยกัน และอีกอย่างที่น่าสนใจที่จะหาคำตอบคือ เพราะอะไรภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้คะแนนจากผู้ชมต่างกันมากขนาดนั้น

การตีความหัวใจของหนังยังคงตามเส้นเรื่องเดิมของฉบับเกาหลีไม่ผิดเพี้ยน ต่างแค่การปรับรายละเอียดฉากบางฉากให้ดูสอดรับเหตุผลที่กลมขึ้นมากขึ้น เช่นการผจญภัยบ้านผีสิงของคนแปลกหน้าสองคน ที่เร่งปฏิกิริยาความสนิทสนมทั้งยังก่อเกิดความรักขึ้นในใจจากทฤษฎีสะพานแขวน

สิ่งที่น่าชื่นชมคือหนังแก้ไขบทหรือฉากที่เชยและชวนประหลาดความรู้สึกต่าง ๆ ในหนังต้นฉบับอย่างฉากการตรวจอุจจาระ และมุกตลกเชย ๆ ทั้งหลายแหล่ออก ทำให้ตัวละครดูมีความโตพอจะมีรักที่ตราตรึงมากไปกว่าป๊อปเลิฟที่เราเชื่อได้ยากว่าเด็กบ้านนอกเล่นมูลวัวมูลควายจะไปประสาจริงจังอะไรกับความรักได้ขนาดนั้น ต้องยอมรับว่าหนังไทยตัดแต่งกิ่งใบที่ผิดรูปผิดฟอร์มของฉบับเดิมออกมาได้กลมกว่าอิ่มกว่า โดยยังเก็บรายละเอียดดี ๆ ที่ต้นฉบับทำไว้จัดเจนอย่างกิมมิกเรื่องหิ่งห้อย สายฝน จังหวะก้าวเท้า และอื่น ๆ ของหนังไว้ได้ดี โดยเฉพาะจุดสำคัญคือการเล่าคู่ขนานระหว่างรุ่นแม่และรุ่นลูกนั้นทำได้สอดรับกันดีขึ้น ทั้งยังทิ้งน้ำหนักให้เรื่องของทั้ง 2 รุ่นนั้นใกล้เคียงกัน ต่างจากฉบับเดิมที่เนื้อหาฝั่งแม่เด่นกว่าอย่างชัดเจน

 

รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ-1

 

ความคิดเห็นหลังดูจบ

ด้านเคมีความโรแมนติกที่ขาดไม่ได้อย่างเพลงประกอบหลักของหนังยังคงใช้ Me To You, You To Me เพลงเดิมจากหนังต้นฉบับ โดยนำมาแปลคำร้องภาษาไทยและเล่นโดยวง Mean จากค่าย LOVEiS+ ในชื่อไทยว่า หนึ่งความทรงจำ ก็ทำได้ถึงอารมณ์เดิมอย่างที่คนเคยดูคิดถึง จนพูดได้เต็มปากว่านี่คือการดัด The Classic ให้เป็นของไทยได้อิ่มอารมณ์ใกล้เคียงฉบับเกาหลีมากจริง ๆ

ข้อดีของหนังอีกอย่างจึงมาจากคู่นักแสดงนำ ที่เอาจริงก็รับบท อย่างหนักอยู่เหมือนกันเพราะว่าต้องเน้นไม่ให้โดนเปรียบเทียบกับ ซอนเยจิน ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากฉบับเดิมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอชื่นชม มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร ว่าเป็น ดาหลา หรือตัวเอกรุ่นแม่ และ โบต้า นางเอกในรุ่นลูกได้อย่างมีเสน่ห์ ด้วยคมหน้าที่สวยร่วมสมัยทั้งแบบไทยคลาสสิกและแบบปัจจุบัน การใช้สีหน้าและสายตาในการแสดงของเธอเป็นจุดที่น่าสนใจที่ทำให้การแสดงมีมิติมากขึ้น ทั้งในฉากที่ต้องอาศัยความน่ารักขี้เล่น ฉากที่กล้าหาญท้าทายสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ และฉากดราม่าที่ต้อง สามารถใช้เสน่ห์ส่วนตัวพยุงหน้าที่ของตัวเองในหนังได้ผ่านฉลุย

ส่วน นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ  เองก็ปรับบุคลิกให้เข้ากับ ขจร เด็กหนุ่มในปี พ.ศ. 2510 ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก ที่โรแมนติกมีความขี้อายและสุภาพได้อย่างน่าเชื่อ ยิ่งพอประโยคเด็ดมันใจสาวออกมาจากนิวแล้วฉากนั้นยิ่งอ่อนระทวยผู้ชมเข้าไปอีก เชื่อว่าแม้จะดูฉบับเกาหลีมาแล้วถ้ามาเจอเคมีของนักแสดงคู่นี้ หลายคนก็มีเสียน้ำตาซ้ำทั้งที่รู้เนื้อเรื่องล่วงหน้าดีแล้วอย่างแน่นอน เป็นคู่พระนางที่เห็นโอกาสเติบโตในเส้นทางการแสดงที่น่าจับตามองจริง ๆ และจะว่าไปถ้าจะบอกว่าจุดแตกต่างของทั้ง 2 เวอร์ชันนั้นก็คงต้องเป็นเรื่องนักแสดงนี่ล่ะที่ทำให้อารมณ์โดยรวมของหนังมีกลิ่นคนละแบบไปเลย

ความรักของคนสองยุคสมัยเริ่มต้นที่ “โบต้า” (มิ้นท์ รัญชน์รวี) สาวที่แอบหลงรัก นน (จี๋ สุทธิรักษ์) ชายหนุ่มในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอไม่สามารถบอกความในใจของเธอได้ เพราะ เพื่อนสนิทของเธออย่าง “ป๊อปกี้” (เมโกะ ชนนิกานต์) ก็ได้หลงรักนนเช่นกัน  จนวันหนึ่งเธอได้เจอกล่องลับของคุณแม่ที่บรรจุจดหมายรักของแม่เธอไว้สมัยตอนยังสาว ระหว่าง “ดาหลา” (มิ้นท์ รัญชน์รวี) และชายหนุ่มชื่อ “ขจร” (นิว ฐิติภูมิ) เธอจึงได้รับรู้เรื่องราวความรักครั้งแรกของแม่กับชายหนุ่มในความทรงจำผ่านจดหมายเหล่านั้น ทำให้เธอนั้นได้เริ่มตัดสินใจกำหนดความรักครั้งนี้ด้วยตัวของเธอเอง

การเล่าเรื่องของหนังส่วนตัวชอบการเล่าของอดีตมากกว่า เพราะฉากต่างๆค่อนข้างเล่นกับอารมณ์และความรู้สึกของคนดูมากกว่าในซีนปัจจุบัน แต่พอรวมๆกันออกมาแล้วก็กลายเป็นหนังที่ลงตัวเลยมากอีกหนึ่งเรื่องครับ และสิ่งที่จะไม่พูดไม่ได้นั้นคือ เพลงประกอบของหนังหลักของเรื่องครับ ที่ร้องโดย Mean ในเพลงที่ชื่อว่า หนึ่งความทรงจำ ซึ่งบวกกับฉากต่างๆของหนังยิ่งทำให้หนังรักเรื่องนี้ออกดูโรแมนติกและรู้สึกหัวใจพองโตเลยทีเดียวครับกับหนังเรื่องนี้