รีวิว เพื่อนสนิท

เป็นหนังเมื่อปี พ.ศ. 2548 ซึ่งผมยังเด็กมากจนมาถึงวันนี้ถึงได้ลองมาดูเป็นหนังเกี่ยวกับการแอบรักเพื่อนสนิทของตัวเอง ภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ คมกฤษ ตรีวิมล ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของไข่ย้อย หนุ่มนักศึกษาศิลปะ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์การแอบรักเพื่อนสนิทถึง 2 ครั้ง 2 ครา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มารับบทเป็น หมู / ไข่ย้อย หนุ่มเมืองกรุงฯ จากโรงเรียนชายล้วนนิสัยส่วนตัวคือเขาเป็นคนที่แสนขี้อาย เขาไม่กล้าคุยกับผู้หญิงคนไหน พูดผิดๆถูกๆ ทุกครั้งที่มีสาวๆ เข้ามาทัก นี่เองจึงเป็นเหตุให้ต้องคอยหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสาวๆอยู่เสมอ คนต่อมาคือศิรพันธ์ วัฒนจินดา มารับบทเป็น ดากานดา สาวสวยผู้ที่พกเสน่ห์มาด้วยเต็มๆ โดยดากานดาเป็นเพื่อนสนิทในคณะวิจิตรศิลป์ ของไข่ย้อย และก็เป็นหญิงสาวที่ไข่ย้อยแอบรักอีกด้วย คนต่อมาคือ มณีรัตน์ คำอ้วน รับบทเป็น นุ้ย พยาบาลสาวตาโต ยิ้มเก่งและชอบคอยดูแลคนอื่น ระหว่างที่ไข่ย้อยรักษาตัวอยู่ที่ดรงพยาบาลความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มที่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำก็คือปาณิสรา อารยะสกุล มารับบทเป็น พี่แตน พยาบาลอีกคนที่คอยดูแลไข่ย้อย โดยภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิทเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2548 ดูหนัง

รีวิว เพื่อนสนิท

ความรักของหนุ่มกรุงขี้อายอย่าง หมูหรือไข่ย้อย เด็กเมืองกรุงที่ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบเจอกับดากานดา สาวเชียงใหม่ขี้เล่นและใจดี ทั้งสองเป็นเด็กคณะวิจิตรศิลป์ ที่ได้พบเจอกันเมื่อวันรับน้องและกิจกกรมขอรายชื่อเพื่อนเพื่อทำความรู้จักกัน หมูตกหลุมรักดากานดาตั้งแต่แรกพบ จากภายนอกและการกระทำของทั้งคู่ ดูเหมือนกับเพื่อนสนิทคู่หนึ่งที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน ดุด่ากันเมื่อวันที่เพื่อนทำนิสัยไม่ดี ตลอดระยะเวลา 4 ปี ของการเรียนการศึกษาที่ทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกันมาตลอด ความผูกพันทางความรู้สึกก็ได้เกี่ยวพันกัน หมูเก็บความรู้สึกหลงรักดากานดาไว้ตลอด 4 ปี ดากานดาก็แอบหลงรักหมู แม้ว่าจะพยายามหักห้ามใจอยู่หลายครั้ง เป็นเรื่องราวของหนุ่มกรุงเทพที่แสนจะขี้อาย(หมู/ไข่ย้อย) ได้มีโอกาสไปเรียนที่เชียงใหม่ และตกหลุมรักเพื่อนสนิทของตัวเองที่เรียนคณะเดียวกัน หลังจากบอกรักเพื่อน(ดากานดา)ก็หนีรักไปพักใจที่เกาะพะงัน แล้วพบกับพยาบาลสาว(นุ้ย) ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยอ่านหนังสือเรื่อง”กล่องไปรษณีย์สีแดง” นักแสดงเล่นได้อิน โดยเฉพาะไข่ย้อย(ซันนี่)แสดงได้ดี แอบรักแต่ทำอะไรมากไม่ได้ แสดงออกมากไม่ได้ ทำให้รู้สึกอินตาม ในส่วนของดากานดา “นุ่น ศิรพันธ์” ทำให้รู้สึกได้ว่าเธอคือ ดากานดาจริงๆ การตัดต่อฉากตั้งแต่ตอนเรียนปี1 สลับกับเหตุการณ์ปัจจุบันระหว่างที่ไข้ย้อยอยู่เกาะพะงันทำได้ดี มีการเล่นกิมมิคบางอย่างทำให้สองส่วนต่อเนื่องกัน

รีวิว เพื่อนสนิท

ในช่วงตอนจบของภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท ใครหลายคนคงเคยจินตนาการไว้แล้วว่าในตอนสุดท้ายไข่ย้อยอาจนั่งรถไฟกลับจากสุราษฎร์มาโผล่ที่หน้าบ้านของดากานดาแล้วก็จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ แต่หนังเรื่องเพื่อนสนิทก็ยังคงเป็นหนังของเพื่อนที่แอบรักเพื่อนที่ไม่ได้สมหวังเหมือนเรื่องอื่นๆ ต่อให้เราจะอยากเปลี่ยนตอนจบมากแค่ไหน เราก็ทำไม่ได้ หนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองของไข่ย้อยเพียงด้านเดียวถึงเรื่องราวต่างๆตลอดทั้งเรื่อง จนบางครั้งเราเกิดคำถามว่า ถึงแม้ดากานดาอาจไม่ได้รับรักของไข่ย้อยในตอนนั้น แต่ว่าที่ผ่านมาหล่ะ ดากานดารู้สึกกับไข่ย้อยยังไงบ้าง เพราะบางฉากในหนังก็ทำให้เรา ในฐานะคนดูอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าจริงๆแล้ว ดากานดากำลังคิดอะไรอยู่ เว็บดูหนัง

แต่กาลเวลาผ่านไปหมูก็ไม่กล้ายอมบอกรักสักที จนดากานดาได้มีความรู้สึกกับคนอื่นไปแล้ว แม้จะยังมีส่วนหนึ่งของจิตใจที่ยังรักหมูอยู่ หมูได้ตัดสินใจสารภาพรักกับดากานดา ในช่วงสอบวันสุดท้ายของปี 4 ดากานดาได้ปฏิเสธไป กลายเป็นประโยคยอดฮิตประจำหนังเรื่องนี้ “ดากานดา ฉันรักแกว่ะ” “แกมาทำอะไรตอนนี้” การปฏิเสธครั้งนั้นทำให้หมูตัดสินใจเดินออกไปจากชีวิตดากานดาอย่างเงียบ ๆ โดยลงใต้ไปเกาะพงันเพื่อนหนีความรู้สึกที่ตนมีต่อดากานดา แล้วด้วยอุบัติเหตุทำให้หมูขาหักและได้พบเจอกกับ “นุ้ย” พยาบาลสาวที่คอยดูแลหมูตลอดที่หมูรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล หมูก็เริ่มเปิดใจให้กับความรู้สึกครั้งใหม่นี้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะลืมดากานดา

      รีวิว เพื่อนสนิท

รีวิว เพื่อนสนิท

จากปลายปากกาสู่แผ่นฟิล์ม เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้น่าหอมหวนจนสร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงหลายคน ด้วยเรื่องราวง่าย ๆ แต่กินใจ ความรักบนมิตรภาพที่เกิดขึ้นกับหลายต่อหลายคน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าไปนั่งอยู่ในใจใครต่อใครมากกมายโดยที่ไม่ต้องมีฉากหวือหวา น่าตกใจ เหมือนอย่างเรื่องก่อนๆ การใช้ชีวิตที่ห่างไกลบ้านในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยของพระเอก ที่บังเอิญพบกับความผูกพันก่อให้เกิดความรักระหว่าง หมู กับ ดากานดา ประเด็น sensitive ที่เล่นกับความรู้สึกของผู้ชม ทำให้เหมือนเป้นส่วนหนึ่งในเรื่องราว ประโยคเด็ด “ดากานดา ฉันรักแกว่ะ” กลายเป็นประโยคสุดฮิต ของการบอกรักเพื่อนสนิท

บรรยากาศใต้ต้นชงโคยิ่งช่วยสร้างความรู้สึกของทั้งสองตัวละครให้สื่อถึงผู้ชมได้ดีอีกด้วย พยาบาลนุ้ยความรักครั้งใหม่ที่สดใสและสวยงาม เป็นเครื่องเตือนให้เรารักคนที่รักเราดีกว่า มิตรภาพและความผูกพันที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้นกว่า แต่ก็มีมากพอที่จะทำให้หมูเลือกที่จะกลับไปรักนุ้ย ไดอารี่และโปสการ์ดจากหมูที่เขียนส่งให้ดากานดาเสมือนกล่องความทรงจำของทั้งสองตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่พบกัน ความรักที่เหมือนเส้นขนานที่ไม่บรรจบแต่ยังคงสวยงามทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ตราตรึงอยู่ในใจใครอีกหลายคน รีวิวหนังรัก

     

นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (รับบทเป็น หมู ,ไข่ย้อย) ,นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (รับบทเป็น ดากานดา) ,เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน (รับบทเป็น นุ้ย) และ โอปอ-ปณิศรา พิมพ์ปรุ (รับบทเป็น พี่แตน)
กำกับการแสดง เอส-คมกฤษ ตรีวิมล และเขียนบทโดย หมู-นิธิศ ณพิชญสุทิน แห่ง จีเอ็มเอ็ม ไท หับ (GTH)
เข้าฉาย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2548
รายได้ ประมาณ 80 ล้านบาท

หนังพูดถึง 2 เหตุการณ์ โดยพูดถึง ‘หมู’ หรือ ‘ไข่ย้อย’ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) หนุ่มมาดเซอร์ ขี้อายที่มาจากกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสเข้าเรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นเพื่อนกับ ‘ดากานดา’ (นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) สาวเหนือที่เรียนคณะเดียวกัน เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก่อเกิดเป็นความผูกพัน ไข่ย้อยเกิดหลงรัก ดากานดา ขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกที ก็ยากที่จะบอกเสียแล้ว ในอีกมุมหนึ่งคือ หมูเดินทางไปเที่ยวที่เกาะพะงันและบังเอิญประสบอุบัติเหตุที่นั่น จึงทำให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากเหตุนี้จึงทำให้ได้รู้จัก ‘นุ้ย’ (มณีรัตน์ คำอ้วน) พยาบาลสาว ความผูกพันและความรู้สึกที่มีจึงเริ่มเปลี่ยนไปตอนแรกที่เปิดดูมาเรื่อย ๆ ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับหนังเรื่องนี้มาก คิดในใจด้วยซ้ำว่า ทำไมมันเดินเรื่องเนือยเนิบแบบนี้ แต่ที่ชอบเลยคงเป็นวิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับระหว่างช่วงปัจจุบันกับช่วงอดีต ตัดไปมาเพื่อดึงอารมณ์คนดู พร้อมวางจุดอารมณ์เชื่อมโยงทั้ง 2 ช่วงเวลาได้ดี บวกกับสอดแทรกมุกตลกน่ารักให้คนดูพอได้ขบขัน ฉากที่ชอบคงหนีไม่พ้น ฉากนับเลข (เราก็คิดในใจนะว่าถ้าจะนับกรอกหูขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องตื่น) ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการพูดตอกย้ำแบบ อุปมา – อุปมัย ให้คนดูได้คิดตามไปด้วย เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ มันดันตรงกันกับช่วงที่ไข่ย้อยเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่า รักดากานดามากกว่าเพื่อนสนิท ดูหนังออนไลน์

     

การดำเนินเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาลัย ไข่ย้อย (แอบ)รัก ดากานดา ตั้งแต่แรกพบ แต่ไม่กล้าบอก …ถ้าดูจากพล๊อทเรื่องแบบผ่านๆ อาจจะดูเชยๆ ไปซักหน่อยใช่มั๊ย แต่ในเรื่องราวต่างๆ ที่หนังดำเนินไป แอดบอกเลยว่ามีทั้งความฮา ของบรรดาตัวแสดงประกอบ ความเปิ่นของตัวไข่ย้อยเอง หรือความที่ไม่รู้อะไรบ้างเลย…ของดากานดา ภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงได้ถูกเรียกว่า เป็นภาพยนตร์แนว ‘โรแมนติกระหว่างที่ไข่ย้อย และดากานดา ใช้ชีวิตนักศึกษา ก็กิน นอน เที่ยว ทำกิจกรรมด้วยกันมาตลอด จนแทบจะตัวติดกัน 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ แต่เชื่อมั๊ยว่า ผู้ชายอย่างไข่ย้อย แทบจะไม่เคยแสดงออก หรือบอกให้ดากานดารู้ความในใจเลยแม้ซักครั้ง ดากานดาเองก็ไม่เคยตะหงิดบ้างเลย จนมีหนุ่มวิศวะเข้ามาคบหากับดากานดาแบบจริงจัง ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็เริ่มสั่นคลอน ไข่ย้อยนางก็รักของนางมานาน …แล้วไงล่ะ จะมาบอกตอนนี้ก็สายไปซะแล้วมั๊ย? เว็บดูหนังฟรี 

     

สรุปแล้วควรค่าแก่การดูหรือไม่

สำหรับผมเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยนะครับทำออกมาได้น่าสนใจมากๆ